รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ดีไหม เปรียบเทียบ ดีเซล-LPG-NGV-LNG หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้

รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ดีไหม?
เปรียบเทียบ “ดีเซล-LPG-NGV-LNG”

การเลือกใช้เชื้อเพลิงที่เหมาะสม สำหรับรถบรรทุกขนส่งมีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันดีเซล, ติดแก๊ส CNG/NGV แต่ปัจจุบันมีพลังงานทางเลือกอย่างก๊าซ LNG ที่มีความสะอาดและให้ค่าพลังงานสูง เข้ามาเป็นอีกตัวเลือกให้พิจารณา ด้วยคุณสมบัติและราคาที่ตอบโจทย์มากกว่า อีกทั้งการเติมแต่ละรอบใช้เวลาไม่นาน สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 1,000-1,400 กม. ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้ถึง 20-30% !!! ดังนั้น ถามว่า รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ดีไหม? บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบคุณสมบัติของเชื้อเพลิงแต่ละประเภท อาทิ ดีเซล LPG NGV และ LNG มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร? เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

⛽️น้ำมันดีเซล (Diesel)⛽️

เป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังงานสูงและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่มลพิษที่ปล่อยออกมาสูง ทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

คุณสมบัติ
✔️ สถานะ: ของเหลว

✔️ การผลิต: มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ
✔️ พลังงาน: มีค่าความร้อนสูง (ประมาณ 35.8 MJ/L)
✔️ การเผาไหม้: มีประสิทธิภาพสูงในเครื่องยนต์ดีเซล
✔️ การปล่อยมลพิษ: ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ซัลเฟอร์ออกไซด์ (SOx) และฝุ่นละอองมาก

ข้อดี
✔️ ให้พลังงานสูงและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน

✔️ โครงสร้างพื้นฐานและสถานีเติมเชื้อเพลิงมีอยู่ทั่วประเทศ
✔️ ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับพลังงานบางประเภท

ข้อเสีย
✔️ มลพิษสูง โดยเฉพาะก๊าซ NOx และ PM2.5

✔️ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง

🚗ติดแก๊ส LPG🚗

ก๊าซ LPG (Liquefied Petroleum Gas) เป็นเชื้อเพลิงที่เผาไหม้สะอาดและมลพิษน้อยกว่า มีค่าความร้อนต่ำกว่าและเหมาะสำหรับใช้งานในเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่ปรับแต่งได้

คุณสมบัติ
✔️ สถานะ: ก๊าซเหลว

✔️ การผลิต: ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบหรือแยกจากก๊าซธรรมชาติ
✔️ พลังงาน: มีค่าความร้อนต่ำกว่า (ประมาณ 25.5 MJ/L)
✔️ การเผาไหม้: เผาไหม้สะอาดกว่าเมื่อเทียบกับดีเซล
✔️ การปล่อยมลพิษ: ปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำกว่า, ปล่อยก๊าซ NOx ต่ำ

ข้อดี
✔️ เผาไหม้สะอาดกว่าและปล่อยมลพิษน้อยกว่า

✔️ ราคาค่อนข้างถูก
✔️ สามารถใช้งานในเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่ปรับแต่งได้

ข้อเสีย
✔️ ค่าความร้อนต่ำกว่า ทำให้ต้องใช้ปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ได้พลังงานเท่ากับดีเซล

✔️ ความเสี่ยงจากการรั่วไหลและการระเบิดสูงกว่า

🚍ติดแก๊ส NGV/CNG🚍 

ก๊าซ NGV (Natural Gas for Vehicles) หรือ CNG เป็นเชื้อเพลิงที่เผาไหม้สะอาดที่สุดและมลพิษน้อยที่สุด มีค่าความร้อนต่ำแต่ต้องใช้ถังเก็บขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานในรถยนต์ที่ออกแบบมาให้ใช้ NGV

คุณสมบัติ
✔️ สถานะ: ก๊าซ

✔️ การผลิต: ได้จากการสกัดก๊าซธรรมชาติ
✔️ พลังงาน: มีค่าความร้อนต่ำ (ประมาณ 9 MJ/L)
✔️ การเผาไหม้: เผาไหม้สะอาดมาก
✔️ การปล่อยมลพิษ: ปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำ, ปล่อยก๊าซ NOx ต่ำมาก

ข้อดี
✔️ เผาไหม้สะอาดที่สุดในบรรดาเชื้อเพลิงทั้งหมด

✔️ ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่นๆ
✔️ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ

ข้อเสีย
✔️ ค่าความร้อนต่ำ ต้องมีถังเก็บขนาดใหญ่

✔️ โครงสร้างพื้นฐาน สถานีเติมเชื้อเพลิงยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด
✔️ ความปลอดภัยในการเก็บรักษาและขนส่งมีความซับซ้อน

🚚 ติดแก๊ส LNG 🚚

ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG (Liquefied Natural Gas) เป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังงานสูง มีประสิทธิภาพในการใช้งานและเผาไหม้สะอาด ต้องการโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเฉพาะในการจัดการและใช้งาน ปัจจุบัน LNG เป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้งานทั่วโลก ทั้งในประเทศที่ผลิตก๊าซธรรมชาติและประเทศที่ต้องนำเข้า อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหลายประเทศ

ส่วนในประเทศไทยก๊าซ LNG เริ่มเป็นที่สนใจและมีการใช้งานมากขึ้น ทั้งเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ (รถบรรทุก) ซึ่งส่วนใหญ่ไทยมีการนำเข้า LNG จากต่างประเทศ อาทิ เมียนมา กาตาร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เป็นต้น เนื่องจาก LNG ที่ผลิตเองได้จากอ่าวไทยยังไม่เพียงพอ (รู้จัก LNG คืออะไร? : คลิก)

คุณสมบัติ
✔️ สถานะ: ก๊าซเหลว

✔️ การผลิต: ได้จากการทำให้ก๊าซธรรมชาติเย็นจนกลายเป็นของเหลว
✔️ พลังงาน: มีค่าความร้อนสูงกว่า NGV (ประมาณ 21 MJ/L)
✔️ การเผาไหม้: เผาไหม้สะอาดและมีประสิทธิภาพ
✔️ การปล่อยมลพิษ: ปล่อยก๊าซ CO2 และ NOx ต่ำ

ข้อดี
✔️ ค่าความร้อนสูงและให้พลังงานมาก

✔️ เผาไหม้สะอาดและลดการปล่อยมลพิษ
✔️ ลดต้นทุนในการขนส่งเมื่อเทียบกับ NGV

ข้อเสีย
✔️ ค่าใช้จ่ายในการผลิตและเก็บรักษาสูง

✔️ โครงสร้างพื้นฐานสถานีเติมเชื้อเพลิงยังไม่แพร่หลาย
✔️ การเก็บรักษาต้องการเทคโนโลยีและอุปกรณ์พิเศษ

การใช้รถบรรทุก LNG ช่วยลดต้นทุน 20-30%

สำหรับปริมาณการใช้ LNG ในรถบรรทุก พบว่า ในปี 2565 มีรถบรรทุกที่ใช้ LNG มากกว่า 500 คัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,000 คันภายในปี 2570 นอกจากนั้นยัง ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้มากถึง 20-30% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซล แม้ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอาจค่อนข้างสูงในระยะแรก แต่โดยรวมถือว่า “คุ้มค่าในระยะยาว” เพราะ LNG ราคาถูกกว่า ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของผู้ประกอบการขนส่งได้มากขึ้น (อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว “รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ระบบฉีดร่วม (DDF) เชื้อเพลิงดีเซล-LNG คันแรกของไทย”)

แนวโน้มการใช้เชื้อเพลิง LNG ในภาคขนส่ง

แนวโน้มในอนาคต
✔️ คาดการณ์ว่าในปี 2573 การใช้ LNG ในภาคการขนส่งของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 50% เนื่องจากมีการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ
✔️
บริษัทขนส่งหลายแห่งมีแผนที่จะเปลี่ยนรถบรรทุกที่ใช้ดีเซลเป็นรถบรรทุกที่ใช้ LNG เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างการใช้ในภาคการขนส่ง
✔️ บริษัทขนส่งสินค้า : หลายบริษัทในไทยเริ่มทดลองใช้รถบรรทุก LNG สำหรับการขนส่งสินค้า ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการประหยัดค่าใช้จ่าย
✔️
การขนส่งภาคเกษตร : การขนส่งสินค้าเกษตรจากพื้นที่ห่างไกลเข้าสู่เมืองใหญ่ก็เริ่มหันมาใช้รถบรรทุก LNG เพื่อลดต้นทุนและรักษาคุณภาพสินค้ามากขึ้น

สรุป : เชื้อเพลิงแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้เชื้อเพลิงที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานและข้อจำกัดของผู้ใช้งาน จะช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยลดการกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว โดยข้อดีของ LNG คือเป็น “พลังงานสะอาด” มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เครื่องยนต์เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ทดแทนน้ำมันดีเซล หรือก๊าซ CNG ได้เป็นอย่างดี

บริการครบ จบที่เดียว!
One Stop Service

ข่าวสารกิจกรรมและบทความ