เปิดตัว “รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ระบบฉีดร่วม (DDF)
เชื้อเพลิง ดีเซล-LNG คันแรกของไทย
บริษัท หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้ จำกัด ร่วมกับ บริษัท พงษ์ระวี จำกัด ผู้นำด้านการขนส่งวัตถุอันตรายที่มีความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยในระดับสากล เปิดตัว “รถบรรทุก ติดแก๊ส LNG ระบบฉีดร่วม (DDF) เชื้อเพลิงดีเซล-LNG คันแรกของไทย” ในงาน Bangkok Imported Car and Used Car Show 2024 ที่อิมแพ็ค เอ็กซ์ซิบิชั่น ฮอลล์ 11-12 เมื่อวันที่ 10-14 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งรถคันนี้เป็นรถบรรทุกที่ใช้งานจริงและได้มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว นับเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ทางเลือกลดต้นทุนค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ประกอบการในภาคการขนส่งโลจิสติกส์ไทย
นายสมชาย โตสมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พงษ์ระวี จำกัด กล่าวว่า “…ความร่วมมือกับบริษัท หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้ จำกัด ในการนำรถบรรทุกมาติดตั้งระบบเชื้อเพลิงร่วม (DDF) โดยใช้ก๊าซ LNG และดีเซล ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของทั้ง 2 บริษัท โดยที่ผ่านมาพงษ์ระวีได้มีการศึกษาตลาด LNG และมองหาคู่ค้าหลายราย ซึ่งพบว่า “หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้” เป็นบริษัทที่มีความพร้อมมากที่สุด ทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง
อีกทั้ง ข้อดีของการใช้ LNG นอกจากเป็นพลังงานสะอาด (ก๊าซธรรมชาติเหลว Liquefied Natural Gas) ยังมีต้นทุนราคาที่ถูกว่าน้ำมันดีเซล ดังนั้น ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่ราคาน้ำมันดีเซล ชมีแนวโน้มจะสูงขึ้นทุกวัน จึงมั่นใจว่าการใช้พลังงาน LNG จะทำให้ “ลดตันทุน” ด้านโลจิสติกส์ของบริษัทได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ยังตอบโจทย์แนวโน้มการใช้พลังงานในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการนำพลังงานสะอาด (Green Energy / Clean Energy) เข้ามาช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ
ส่วนรถบรรทุกที่นำมาติดตั้งและทดสอบคันนี้ได้มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นคันแรกของประเทศไทยที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงร่วม “ดีเซล-LNG…”
สำหรับบริษัท พงษ์ระวี จำกัด ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขนส่งวัตถุอันตราย ที่มีการขนส่งสินค้าหลักคือ “น้ํามันเชื้อเพลิง” ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ค้าน้ํามันรายใหญ่ของประเทศ อาทิ ปตท., เชลล์, บางจาก ฯลฯ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเติมเต็มระบบนิเวศและพร้อมเป็น Energy Arms ให้กับกลุ่มบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน ทั้งหมด

ด้านนายพัฒน์สวัสดิ์เวศย์ เติมพิทยาเวช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้ จำกัด กล่าวว่า “….การติดตั้งระบบเชื้อเพลิง LNG บริษัทเน้นเป็นการติดตั้งกับรถบรรทุกสิบล้อเป็นหลัก ด้วยเรื่องของวิธีการติดตั้ง ถังก๊าซและอุปกรณ์ ซึ่งมีมูลค่าหรือราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการติดตั้งก๊าซในรถยนต์ทั่วไป (LPG / NGV) ประกอบกับขนาดและน้ำหนัก จึงเหมาะกับการใช้งานสำหรับรถบรรทุกมากกว่า
โดยในการติดตั้งและทดสอบในครั้งนี้ หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้ ได้รับร่วมมือกับ บริษัท หงษ์ทองออโต้แก๊ส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่มีทีมช่างเทคนิคประสบการณ์สูง เข้าใจระบบเครื่องยนต์และการติดตั้งเป็นอย่างดี ตลอดจนบริษัท ออน ฟิวส์เจอร์เอเนอร์จี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาชาญด้านการติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบก๊าซ LNG สำหรับรถบรรทุก รวมถึงทีมวิศวกรจาก Prins Autogas ประเทศเนเธอแลนด์ ผู้พัฒนาระบบและผลิตอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐานสากล (เทคโนโลยี ECU และชุดอุปกรณ์ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงร่วม DDF) และพาร์เนอร์อีกหลายส่วน
ในส่วนของการติดตั้ง LNG ในรถบรรทุก แบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ 1.) การแปลงระบบเดิมของรถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิง CNG มาใช้เชื้อเพลิง LNG แทน (ปัจจุบันมีถบรรทุก ติดแก๊ส CNG มากกว่า 25,000 คันในตลาดที่กำลังจะถึงกำหนด ครบอายุการใช้งานถังก๊าซและอุปกรณ์ ตามกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องถอดแล้วแปลงเครื่องกลับเป็นดีเซล) และ 2.) การแปลงเครื่องยนต์ดีเซล มาใช้ระบบเชื้อเพลิง LNG หรือใช้ระบบฉีดร่วม “ดีเซล-LNG” ซึ่งเรียกว่าระบบ DDF (Diesel Dual Fuel System) ซึ่งสามารถใช้งานได้ในระยะทางถึง 1,400-1,600 กม.ต่อรอบการเติม
สำหรับการทดสอบปรับจูน ครั้งแรกเป็นการทดสอบระบบและการทำงานของอุปกรณ์หลังติดตั้งเสร็จ โดยการวิ่งรถเปล่า (ไม่มีโหลด) เป็นระยะทางมากกว่า 20 กม. จากนั้นครั้งที่ 2 เป็นการทดสอบแบบมีโหลดในระดับต่าง ๆ ด้วยการนำรถเข้าไปฟีดของพงษ์ระวีที่สมุทรสาครเพื่อใช้งานขนส่งสินค้าจริง โดยหลังจากปรับจูนจนได้จุดที่มั่นใจ ทุกอย่างสมบูรณ์ เหมาะกับเครื่องยนต์และการใช้งานแล้ว จึงนำมาเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้…”
ปัจจุบัน บริษัท หงษ์ทองเอ็นเนอร์จี้ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดอุปกรณ์ (กล่อง ECU) และถังก๊าซ LNG สำหรับรถบรรทุก และมีแผนต่อยอดธุรกิจในเฟสต่อไป เพื่อขยายการให้บริการที่ “คลอบคลุมและครบวงจร” มากยิ่งขึ้น อาทิ การลงทุนสร้างสถานีให้บริการ LNG (ปั๊มก๊าซ LNG) ในไทย, จับมือกับพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริหารติดตั้ง LNG ในรถบรรทุก, อำนวยความสะดวกให้กับคู่ค้า/ผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำรถเข้าจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดโครงการฝึกอบรมการติดตั้งและตรวจสอบอุปกรณ์ สำหรับรถใช้ก๊าซ LNG ให้กับอู่ที่มีศักยภาพและสนใจเป็นผู้ให้บริการติดตั้งในอนาคต เป็นต้น

รถบรรทุก ติดแก๊ส ระบบเชื้อเพลิงร่วม ” ดีเซล-LNG “
สำหรับการติดตั้งก๊าซ LNG ในรถบรทุกคันนี้ เป็นระบบที่ใช้เชื้อเพลิงผสมระหว่าง น้ำมันดีเซล-LNG หรือเรียกว่า ระบบฉีดร่วม DDF : Diesel Dual Fuel (อ่านเพิ่มเติม ระบบ DDF คืออะไร?) เทคโนโลยีขั้นสูงในการดัดแปลงเครื่องยนต์ดีเซลให้สามารถใช้งานก๊าซ LNG ร่วมกับน้ำมันดีเซลได้ ซึ่งระบบนี้จะเหมาะสำหรับรถบรรทุก รถหัวลาก และยานพาหนะขนาดใหญ่
โดยในการติดตั้งต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ค่อนข้างสูง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทีมช่างและวิศวกรของบริษัท “หงษ์ทอง ออโต้แก๊ส” ผู้นำด้านการติดตั้งแก๊สรถยนต์ และทีมวิศวกรจาก Prins Auto Gas ประเทศเนเธอแลนด์ เข้ามาร่วมทดสอบและปรับจูน
ส่วนชุดอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งก๊าซ LNG ในรถบรทุก จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล (ECE R110 standard) ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ซึ่งสามารถติดตั้งได้กับ “รถบรรทุก” ทุกประเภท อาทิ
- กล่องอีซียู : PRINS DDF ECU
- ถังก๊าซ LNG : HGRD (High grade) LNG cylinder ขนาด 1000 ลิตร

ข้อดีของการใช้ รถบรรทุก ติดแก๊ส ระบบเชื้อเพลิงร่วม “ดีเซล-LNG”
- ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ
- ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง 15-25%
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษจากไอเสีย, ลดการปล่อย CO2 (ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์)
- ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์

